ครบรอบ 20ปี คดีปล้นปืนทหารค่าย ‘ปิเหล็ง’ จังหวัดนราธิวาสปี 2547 จุดเริ่มต้นของการเกิดความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย
เกิดอะไรขึ้น ?
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547 เกิดเหตุการณ์เผาโรงเรียนในจังหวัดนราธิวาสพร้อมกันถึง 20แห่ง โดยคาดว่านี่เป็นแผนเบี่ยงเบนความสนใจจากเจ้าหน้าที่ เพราะในเวลาใกล้เคียงกัน เกิดเหตุบุกปล้นอาวุธปืน 413 กระบอก จากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ หรือ ‘ค่ายปิเหล็ง’ ตำบลปิเหล็ง อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส ซึ่งจากเหตุการณ์ในครั้งนี้มีทหารเสียชีวิต 4 นาย โดยที่การเข้าปล้นปืนครั้งนี้ใช้เวลาเพียงแค่ 20 นาที
โดยภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้พยายามตามจับผู้ปล้นอาวุธปืน แต่ระหว่างทางที่ตามจับ ผู้ก่อเหตุปล้นปืนได้มีการโรยตะปูเรือใบบนถนน เพื่อสกัดกั้นไม่ให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวได้ นอกจากนั้นยังมีการก่อเหตุคู่ขนานในจุดอื่นและจังหวัดใกล้เคียงอีกด้วย เช่น การวางระเบิดในจังหวัดปัตตานี การบุกถล่มโรงพักในอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ซึ่งสุดท้ายแล้วผู้ก่อเหตุทั้งหมดสามารถหลบหนีการจับกุมไปได้
ความรุนแรงจากเหตุการณ์จนนำไปสู่การหายตัวไปของ ทนาย ‘สมชาย นีละไพจิตร’
หลังจากเกิดเหตุปล้นปืนค่ายปิเหล็ง ในปี 2547 ทนายสมชาย นีละไพจิตร ได้ให้การช่วยเหลือแก่ผู้ต้องหาชาวมุสลิม จำนวน 5 ราย โดยทนายสมชายได้มีการเปิดเผยถึงการซ้อมและทำร้ายร่างกายผู้ต้องหาเพื่อให้รับสารภาพ ทั้งด้วยการปัสสาวะใส่หน้า ใช้ไฟฟ้าช็อตตามร่างกายและอวัยวะเพศ นายสมชายซึ่งเป็นทนายว่าความในคดีดังกล่าวได้ทำหนังสือร้องเรียนถึงศาลขอให้ศาลสั่งให้เรือนจำเป็นผู้ควบคุมผู้ต้องหาแทนการควบคุมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นอกจากทนายสมชายจะคอยช่วยเหลือผู้ต้องหาและชาวบ้านทางด้านกฎหมายแล้ว ทนายสมชายยังเป็นคนที่พยายามรวบรวมรายชื่อประชาชน ให้ถึงตามที่รัฐธรรมนูญปี 2540 กำหนด เพื่อให้รัฐยกเลิกการประกาศกฎอัยการศึก แต่ทนายสมชายก็ทำไม่ทันสำเร็จ โดยในวันที่ 12 มีนาคม 2547 ก็หายตัวไป โดยมีการคาดการกันว่านี่เป็น การหายตัวไปธรรมดา หรือ “การถูกทำให้หายไป” กันแน่
ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เกิดขึ้นที่ค่าย ‘ปิเหล็ง’ ถือว่าเป็นการจุดชนวนการก่อความไม่สงบระลอกใหม่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้นับตั้งแต่นั้นมา
✊มานุษยะขอเป็นส่วนหนึ่งในการเรียกร้องสันติภาพและการนำมาซึ่งความสงสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเราขอเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเปลี่ยนแปลงเชิงบวก เพื่อนำมาซึ่งสันติภาพและความสงบสุขที่เบ่งบาน ✊
ที่มา Thairath, สถาบันพระปกเกล้า
Comments