มูลนิธิมานุษยะขอชวนทุกคนร่วมติดแฮชแท็ก #SAVEวารุณี
มูลนิธิมานุษยะขอชวนทุกคนร่วมติดแฮชแท็ก #SAVEวารุณี เพื่อเรียกร้องให้ศาสคืนสิทธิ์การประกันด้วให้กับ ‘วารุณี’ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
ซึ่งอ้างอิงจางจากคำชี้แจงกรณีของวารุณี ประจำวันที่ 4 กันยายน 2566 ในวันที่ 4 กันยายน 2566 ทนายควมได้เข้าเยี่ยมวารุณี ผู้ต้องขังคดี ม.112 จากการโพสต์ภาพพระแก้วมรกตใส่ชุดราตรีแบรนด์สิริวรรณวลีที่ทัณฑ์สถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์โดยการเยี่ยมผ่านจอ เนื่องจากวารุณีต้องอดอาหารเพื่อเรียกร้องสิทธิในการประกันตัวมาเป็นวันที่ 15
อาการของร่างกาย
วารุณีแจ้งว่า วันนี้ค่าน้ำตาลเป็น 89 ซึ่งน่าสงสียมากว่าค่าน้ำตาลกลับมาเป็นปกติ แต่แพทย์อธิบายว่าอาจเป็นเพราะร่างกายพยายามนำพลังงานส่วนต่างๆมาใช้ และวันนี้มีการเจาะเลือดไปแต่ผลยังไม่ออก นอกจากนี้วารุณียังมีอาการเพลียและหายใจเร็ว อาการหูอื้อตลอดเวลา ตัวร้อน ตลอดการพูดคุยในช่วงบ่ายเธอใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดหน้าและคอตลอด เธอบอกว่าอากาศร้อน พอไม่ได้กินน้ำ เหงื่อก็ไม่ออก
วารุณียังคงรับประทนยารักษาโรคไบโพลาร์เนื่องจากเจ้าหน้าที่บอกว่าเธอคิดมาก ฟุ้งซ่าน เธอจึงกลับมาทานยาและจิบน้ำเพียงวันละ 90-100 CC เธอยังยืนยันอดอาหาร พร้อมทั้งพยายามขยับกล้องให้ทนายเห็นหัวเตียงว่าพยาบาลนำน้ำเต้าหู้กล่องมาให้ทุกวันแต่เธอไม่ได้รับประทานและอยู่ที่หัวเตียงสิบกว่ากล่องแล้ว แพทย์กังวลว่าเธออดอาหารผ่านมาสองสัปดาห์แล้วร่างกายจะทรุดลง
ความประสงค์
วารุณีแจ้งว่าเธอขอย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลธรรมศษสตร์แต่แพทย์ชี้ว่า หากจำเป็นต้องส่งต่อตามขั้นตอนต้องส่งไปโรงพยาบาลตำรวจ
เธอฝากขอบคุณคนนอกเรือนจำที่คิดถึงเธอ “ขอบคุณคนข้างนอกที่ให้กำลังใจ ขอบคุณในแรง support หนู หนูจะอดทนเต็มที่ เต็มความสามารถ” วารุณียังยืนยืนยันอดอาหารจนกว่าจะได้รับสิทธิประกันตัว
การยื่นขอปล่อยตัว
วารุณี ยื่นขอประกันจากศาลอุทรณ์มา 5 ครั้ง และศาลฎีกา 2 ครั้ง แต่ศาลไม่อนุญาตไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวเนื่องจากเกรงว่าจะหลบหนี
อ้างอิง : ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
Commentaires